ใครจะเหนียวกว่ากัน ! อลีสซง vs เอแดร์ซอน - LSM99Joz

Gclubth เว็บไซต์พนันออนไลน์การันตี อันดับ 1 ของคนเล่น

gclub , จีคลับ

Breaking

Post Top Ad

Post Top Ad

Responsive image

วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2562

ใครจะเหนียวกว่ากัน ! อลีสซง vs เอแดร์ซอน

ใครจะเหนียวกว่ากัน ! อลีสซง vs เอแดร์ซอน



LSM99Joz เกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีคิวเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม เจอกับ ลิเวอร์พูล วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคมนี้ ถือเป็นเกมใหญ่ และเป็นนัดที่หลายคนสนใจมากๆ เพราะมันจะเป็นเกมที่มีผลกับการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้สุดๆ


    ในตอนนี้ "หงส์แดง" นำเป็นจ่าฝูงด้วยผลงาน 54 คะแนน จากการลงเล่น 20 นัด ส่วนฝั่งแชมป์เก่าอย่าง "เรือใบสีฟ้า" ที่มองกันว่าน่าจะเป็นคู่แข่งตัวหลักในการลุ้นแชมป์ของ ลิเวอร์พูล นั้น ตามหลังทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ อยู่ถึง 7 แต้ม นั่นหมายความว่าถ้า ลิเวอร์พูล เอาชนะได้ เส้นทางสู่แชมป์ของพวกเขาก็สดใสสุดขีดจากการที่จะทิ้งห่างอีกฝ่ายถึง 10 แต้ม ในทางกลับกัน ถ้าเกิด แมนฯ ซิตี้ ยัดเยียดความปราชัยในลีกนัดแรกให้ ลิเวอร์พูล ประจำฤดูกาลนี้ได้แล้วล่ะก็ ทีมของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ก็จะลดช่องว่างเหลือเพียง 4 แต้ม จนทำให้การลุ้นแชมป์สนุกสุดๆ
    แน่นอนว่าคนที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินผลแพ้ชนะของเกมนี้มีหลายคน อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตู ลิเวอร์พูล และ เอแดร์ซอน โมราเอส นายทวาร แมนฯ ซิตี้ ก็อยู่ในกลุ่มนั้นเช่นกัน หลังจากที่พวกเขาถือเป็นปราการด่านสุดท้ายของทีมในการป้องกันประตู และวันนี้เราจะมาดูกันว่าระหว่าง 2 มือกาวสายเลือดบราซิเลียนนั้น ในฤดูกาลนี้ใครที่ทำผลงานได้ดีกว่ากัน

   - การมีส่วนร่วมในเกมรุก


    ถ้าพูดถึงนักเตะตำแหน่ง "ผู้รักษาประตู" แล้วล่ะก็ แน่นอนว่าคุณสมบัติสำคัญที่หลายคนจะนึกถึงเป็นอย่างแรกคือการป้องกันประตู พวกเขามีหน้าที่ที่จะต้องทำให้ทีมไม่เสียประตู ไม่ว่าจะด้วยการใช้อวัยวะส่วนไหนของร่างกายก็ตาม


    อย่างไรก็ตาม องค์ประกอบอีกอย่างหนึ่งที่นายทวารควรมีคือการ "เปิดเกมด้วยลูกเตะ" แน่นอนว่าความสำคัญของเรื่องนี้ถือว่าน้อยกว่า "การเซฟ" แต่ถ้านายด่านคนนั้นๆ สามารถเตะเปิดเกมได้ดี มันก็จะช่วยทำให้ทีมเล่นเกมรุกได้เร็วขึ้นด้วย

    อลีสซง ทำผลงานได้ดีในด้านนี้พอตัว ยกตัวอย่างเช่นนัดที่ถล่ม อาร์เซน่อล 5-1 เขาก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทีมได้ประตูที่ 4 จากการที่ผ่านบอลได้อย่างแม่นยำชนิดที่สมควรได้รับเสียงปรบมืออย่างมาก
    ในทางกลับกัน เอแดร์ซอน ก็จ่ายบอลได้ดีไม่แพ้ อลีสซง สมกับเป็นสายเลือดแซมบ้า ตัวอย่างในการมีส่วนร่วมกับเกมบุกของเขาคือนัดที่ แมนฯ ซิตี้ เอาชนะ 3-1 แถมเขายังมั่นใจในลีลาของตัวเองจนถึงขั้นเลี้ยงบอลในกรอบเขตโทษของตัวเอง ก่อนที่จะเปิดบอลขึ้นเกมบุกด้วยซ้ำ

    ถ้าถามว่าใครเหนือกว่าในจุดนี้ ก็ต้องบอกว่า เอแดร์ซอน ได้รับการชูมือเป็นผู้ชนะ เพราะในฤดูกาลนี้เขาผ่านบอลสำเร็จไป 504 ครั้ง คิดเป็น 82.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของ พรีเมียร์ลีก ประจำซีซั่นนี้ (อันดับ 1 คือ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า มือกาว เชลซี จากจำนวน 85.9 เปอร์เซ็นต์) ขณะที่ อลีสง ผ่านบอลสำเร็จ 78.8 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่จริงๆ แล้วเขามีจังหวะพยายามผ่านบอลเยอะกว่า เอแดร์ซอน ด้วยซ้ำ โดย อลีสซง พยายามผ่านบอลไป 566 หน

    - ความผิดพลาด

    การเล่นแบบเสี่ยงๆ ย่อมทำให้เกิดความผิดพลาดเป็นธรรมดา ซึ่งในตำแหน่งผู้รักษาประตูนั้น ความผิดพลาดก็อาจส่งผลให้ทีมเสียประตูได้ง่ายๆ เลย และต้องบอกว่าทั้งคู่ก็มีจุดด้อยในด้านนี้พอๆ กัน



    เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เอแดร์ซอน เสียจุดโทษในเกม พรีเมียร์ลีก ถึง 2 นัดติดต่อกัน เริ่มจากการกะจังหวะพลาดจนไปทำฟาวล์ แดนนี่ อิงส์ กองหน้า เซาธ์แฮมป์ตัน แล้วจากนั้นก็ทำพลาดในแบบคล้ายๆ กัน จนกลายเป็นการทำให้ โรเมลู ลูกากู หัวหอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงไปนอนกองกับพื้น
    ด้าน อลีสซง ก็ไม่ได้ดีเด่นไปกว่ากันในประเด็นนี้ จริงอยู่ว่าเขาโชว์ฟอร์มเซฟสวยๆ หลายหน แต่เขาก็เคยทำพลาดแบบไม่น่าให้อภัยมาแล้วจากการพยายามล็อกหลบผู้เล่น เลสเตอร์ ซิตี้ ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะเสียบอลไป และทำให้ทีมเสียประตูในนัดนั้น ยังดีที่สุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล ชนะไป 2-1 ขณะที่ในเกม "แดงเดือด" เขาก็เคยทำพลาดจนส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูตีเสมอมาแล้ว ก่อนที่สุดท้าย "หงส์แดง" จะชนะไป 3-1

    แน่นอนว่าในวันพฤหัสบดีนี้ทั้ง คล็อปป์ และ กวาร์ดิโอล่า คงไม่อยากให้ทั้งคู่ทำพลาดแบบนั้นแน่ๆ เพราะแค่ประตูเดียวก็อาจส่งผลกับสกอร์ในท้ายที่สุดได้เลย

   - การเซฟ

    มาถึงจุดที่สำคัญที่สุดของการเป็นผู้รักษาประตู แน่นอนว่าถ้าวัดกันที่จำนวนนัดของการไม่เสียประตู อลีสซง ก็เหนือกว่าอย่างชัดเจน หลังจากที่เขาเก็บคลีนชีทได้ถึง 12 ครั้ง ส่วนของ เอแดร์ซอน อยู่ที่ 8 หน นอกจากนี้ อลีสซง ยังเพิ่งเสียไปเพียง 8 ลูกเท่านั้นกับการเล่นในลีก ตรงกันข้ามกับ เอแดร์ซอน ที่โดนเจาะตาข่ายไป 16 ครั้ง

    ทั้งนี้ ความต่างชั้นระหว่าง 2 นายทวารเลือดแซมบ้าในฤดูกาลนี้มันยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีกเมื่อเจาะลึกเรื่องสถิติต่างๆ เพราะจนถึงตอนนี้ อลีสซง ออกแรงเซฟไปแล้วถึง 46 หน มากกว่าเพื่อนร่วมชาติของเขา 11 ครั้งด้วยกัน

    ถ้าแค่นั้นยังไม่พอ เราก็ขอนำเสนอเปอร์เซ็นต์การเซฟของ อลีสซง ที่จะทำให้คุณต้องยอมรับแบบไร้ข้อโต้แย้งว่านายด่านของ ลิเวอร์พูล เหนือกว่า เอแดร์ซอน อย่างมากในตอนนี้ เพราะอดีตมือกาว อาแอส โรม่า มีเปอร์เซ็นต์เซฟสูงถึง 84.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าดีที่สุดในกลุ่มนายทวารของ พรีเมียร์ลีก ที่ลงเล่นไปแล้ว 1,000 นาทีขึ้นไปในฤดูกาลนี้ ขณะที่ของ เอแดร์ซอน อยู่ที่ 68.6 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น จนทำให้เขาอยู่ในอันดับ 8 ของชาร์ตนี้
    

    1. อลีสซง เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล) 84.9 เปอร์เซ็นต์
    2. อูโก้ โยริส (สเปอร์ส) 74.6 เปอร์เซ็นต์
    3. เกปา อาร์รีซาบาลาก้า (เชลซี) 71.9 เปอร์เซ็นต์
    4. รุย ปาตริซิโอ (วูล์ฟแฮมป์ตัน) 71.6 เปอร์เซ็นต์
    5. ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ (เวสต์แฮม) 71.2 เปอร์เซ็นต์
    6. เซร์คิโอ ริโก้ (ฟูแล่ม) 70.5 เปอร์เซ็นต์
    7. แม็ทธิว ไรอัน (ไบรท์ตันฯ) 69.0 เปอร์เซ็นต์
    8. เอแดร์ซอน โมราเอส (แมนฯ ซิตี้) 68.6 เปอร์เซ็นต์

    ที่น่าทึ่งกว่านั้นก็คือเปอร์เซ็นต์การเซฟของ อลีสซง จนถึงนัดที่ 20 นั้น มันดีกว่าที่ ดาบิด เด เคอา นายทวาร แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ตลอดทั้งซีซั่นก่อนด้วยซ้ำ เพราะเจ้าของรางวัลถุงมือทองคำของ พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 2017-18 มีเปอร์เซ็นต์เซฟในซีซั่นที่แล้วอยู่ที่ 80.3 เปอร์เซ็นต์

    นอกจากนี้ อลีสซง ยังโชว์ฟอร์มเซฟในจังหวะสำคัญๆ ได้หลายหนด้วย อย่างในเกมชนะ เบิร์นลี่ย์ เขาก็เซฟลูกโหม่งของ เบน มี ในตอนที่ต้นสังกัดนำอยู่ 2-1 ได้ จนทำให้ ลิเวอร์พูล รอดจากการโดนตีเสมอ ก่อนที่สุดท้ายจะชนะไป 3-1

    สรุป : ถึงแม้ในด้านการช่วยเกมบุกแล้ว เอแดร์ซอน จะทำได้ดีกว่าระดับหนึ่ง แต่ผลงานด้านการเซฟถือว่า อลีสซง เอาชนะแบบห่างกันสุดกู่ ทำให้ตอนนี้ต้องบอกเลยว่า อลีสซง เหนือกว่าเพื่อนร่วมชาติของเขาแบบชัดเจน และคู่ควรกับการเป็นผู้รักษาประตูอันดับ 1 ของ พรีเมียร์ลีก ในปัจจุบัน 





ขอขอบคุณข้อมูลจาก     siamsport.co.th




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

โปรโมชั่น gclub